ฝ้า

เลเซอร์และความงาม » ใบหน้า

“ฝ้า” ปัญหาใหญ่ที่ทำให้หน้าพัง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เนื่องจากฝ้า เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่รักษายาก และผลข้างเคียงจากการรักษาฝ้าแบบผิดวิธีก็มีมากเช่นกัน

 

ฝ้าเกิดขึ้นได้กับใครบ้าง

 

ทั้งผู้ชายและผู้หญิงสามารถเป็นฝ้าได้ แต่ประมาณ 90% พบในผู้หญิง หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเกิดฝ้าได้ง่าย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

 

สาเหตุการเกิดฝ้า

 

ฝ้าเป็นภาวะที่ผิวหนังผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป ทำให้ผิวเป็นรอยสีเข้มขึ้นกว่าสีผิวเดิม พบได้ บริเวณ โหนกแก้ม คาง สันจมูก และอาจเกิดที่หน้าผาก

 

สาเหตุของการเกิดฝ้า เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แสงแดดรังสี UV, สีผิว, ภาวะความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย การรับประทานฮอร์โมนในรูปแบบต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด เป็นต้น

 

ชนิดของฝ้า

 

ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า หรือผิวหนังชั้นอก เกิดได้ง่าย มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล

ฝ้าแบบลึก เกิดในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วง อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัดเจน

การรักษาฝ้า

 

1. การรักษาด้วยยาทา สำหรับยับยั้งการสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ยาทากลุ่มกรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) กรดโคจิก (Kojic Acid) กรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ไฮโดรควิโนน (Hydroxyquinone)  คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)

 

2. การรักษาด้วยแสงและเลเซอร์

 

            2.1 IPL (Intense Pulsed Light) เป็นการปล่อยพลังงานแสงที่มีความเข้มข้นสูง จะไปทำลายโปรตีนของเม็ดสีผิวหรือเมลานินให้หลุดออก ช่วยเร่งการผลิตเซลล์ผิวใหม่มาทดแทน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

 

            2.2  Q Switched Nd YAG และ Ruby Laser  การรักษาแบบ Laser Toning คือการใช้เลเซอร์ เพื่อการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำที่มีประสิทธิภาพสูง จะมุ่งเน้นไปที่ตำแหน่งของเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติอย่างจำเพาะเจาะจง ทำให้แตกกระจายออก รอยฝ้าและรอบดำต่างๆ จางลง

 

            2.3  DiscoveryPico second laser เป็นเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานในช่วงเวลาที่สั้นและเร็วมาก จึงทำให้เม็ดสีดูดซับเลเซอร์และแตกตัวเป็นอนุภาคที่เล็กมากๆ โดยที่เนื้อเยื่อรอบๆ ไม่ได้สะสมพลังงานความร้อน ช่วยลดการเกิดผลข้างเคียง และใช้ระยะเวลาในการรักษาน้อยกว่า Q-Switched แบบเดิม

 

            2.4  DUAL YELLOW เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ใช้ Copper-Bromide เป็นการผสานเลเซอร์ 2 ชนิด คือเลเซอร์สีเหลืองและเลเซอร์สีเขียว ซึ่งจะทำลายเฉพาะเป้าหมายที่เจาะจง โดยไม่ส่งผลต่อผิวหนังปกติ

 

-        เลเซอร์สีเหลือง มีความยาวคลื่น 578 nm. รักษาเส้นเลือด รอยดำ รอยแดงต่างๆ

 

-        เลเซอร์สีเขียวมีความยาวคลื่น 511 nm. รักษาปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยผสมผสานการใช้ Fast Edge MicroPulse Technology ซึ่งให้ผลในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นใต้ผิว

 

3. การลอกหน้าด้วย AHA

 

            AHA (Alpha Hydroxy Acid) เป็น กรด AHA หรือ “กรดผลไม้”  ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป ผิวที่ผลิตขึ้นมาใหม่ จะเนียนใส และช่วยกระชับรูขุมขน

 

4. Dermabrasion เทคนิคเฉพาะของยศการคลินิก เป็นการศัลยกรรมที่สามารถลบได้ทั้งฝ้า กระลึกและกระตื้น รวมถึงหลุมสิว ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของยศการคลินิก กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ และยังกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ผิวให้มีประสิทธิภาพ  เสริมสร้างผิวใหม่ให้เรียบเนียน ขาว กระจ่างใส แข็งแรงและดูอ่อนวัยยิ่งขึ้น

 

5. เมโสรักษาฝ้า คือ การฉีดเติมสารที่ยับยั้งการทำงานของเม็ดสีเมลานิน เข้าไปในชั้นใต้ผิว เพื่อลดการผลิตเม็ดสี ผิวจึงขาวใส ลดการเกิดฝ้าได้