สิว [ Acne Vulgaris ] เป็นโรคที่มีความผิดปกติของรูขุมขน [ Pilosebaceous unit ]
สิว หลุมสิว
สิวไม่เพียง แต่ส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปจนถึงวัยผู้ใหญ่เช่นกัน แม้ฮอร์โมนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสิวตั้งแต่วัยรุ่น แต่ปัจจัยแวดล้อมด้านอาหารการกิน น้ำ หรือมลภาวะ ก็มีส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของสิว ต่างๆ เช่น สิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวหัวช้าง และสิวหิน เหล่านี้ ส่งผลต่อความเครียด และทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง
เนื่องการเป็นสิวมักได้รับการถ่ายทอดจากกรรมพันธ์ุ และสิ่งแวดล้อม วิธีที่จะจัดการกับสิว คือ การแก้ปัญหาที่ตรงจุดอาจต้องใช้หลายๆวิธีร่วมกัน การจัดการกับแบคทีเรียบนใบหน้า ลดอาการอักเสบจากสิว โดยใช้ครีมหรือยาปฏิชีวนะ และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายร้อยชนิดสำหรับรักษาสิว วิธีการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับผิวเป็นการรักษาที่ตรงจุดประสงค์ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น มิฉะนั้นใบหน้าจะเต็มไปด้วยร่องรอยจากสิว เช่น รอยแผลเป็น จุดด่างดำ ใบหน้าพังเพราะสิว และเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาต ด้วยประสบการณ์ทางการแพทย์และประสบการณ์ของ “ยศการคลินิก” ร่องรอยจากสิวที่น่ากลัวและรักษายากที่สุด คือ หลุมสิว
สาเหตุ
- การผลัดเซลล์ผิวหนังของรูขุมขนผิดปกติทำให้เกิดสิวอุดตันเล็กๆ โดยถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนแอนโดรเจน
- การสร้างไขมันจากตอมไขมันมากเกินไป ถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนแอนโครเจน
- เชื้อ P. acnes เป็นเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในร่องขุมขนและตอมไขมัน เชื้อตัวนี้จะหลั่งเอนไซม์ทาให้สิวอุดตันแตกออก หลั่งสารที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้น
- พันธุกรรมและประวัติของคนในครอบครัว สัมพันธ์กับการเกิดสิว
- อาหาร มีรายงานวาอาหารที่มี glycemic index สูง และผลิตภัณฑ์จากนมไขมัน [skim milk] สัมพันธ์กับการเกิดสิว และความรุนแรงของสิว
ชนิดของสิวและหลุมสิว
1.สิวอุดตันหัวปิด และสิวอุดตันหัวเปิด สิวอุดตันตันสามารถทำให้ เกิดแผลเป็น ชนิด Ice-pick scar ได้มีลักษณะสิวแบบลึกแหลม Ice pick scar รอยแผลแบบที่มีระดับรุนแรงที่สุดและรักษาได้ยากมาก เพราะลักษณะของหลุมจะมีหลุมลึกและปากแคบ การรักษาด้วยการทายาทำได้แค่ช่วยให้รอยมันตื้นขึ้นมาแค่นั้นเอง2.หลุมสิวแบบบ่อ Box scar แบบที่มีระดับรุนแรงปานกลาง สิวอักเสบตุ่มหนอง สิวอักเสบเม็ดใหญ่ ซีสต์ สิวชนิดนี้มักก่อให้เกิดแผลเป็น มีลักษณะเป็นบ่อ และมีขอบชัดเจน เพราะมันจะกินความลึกแค่ชั้นผิวหนังเท่านั้น ไม่ได้ลงลึกไปจนถึงชั้นรูขุมขน แต่มีความลึกแค่ชั้นผิวแต่มีขอบเขตกว้างไม่น้อยกว่าแบบ Ice pick scar และรักษาไม่ยากเพราะส่วนใหญ่จะมีรอยด่างดำ สามารถใช้ยาทาและรักษาคู่กับการทำทรีตเม้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
3.หลุมสิวแบบบุ๋ม Rolling scar แบบทั่วไป โดยหลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นแอ่งว้างลงไป เป็นแอ่งตื้น เพราะอยู่บนพื้นผิวชั้นบน สามารถรักษาได้ง่ายกว่าระดับอื่นๆ โดยการใช้ยาทา
ตำแหน่งที่เกิดสิวบ่อย
มักเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันเยอะ เช่นใบหน้า หลัง หน้าอก
การรักษาสิวของยศการคลินิก
- คุณหมอประเมินอาการของสิวตามความรุนแรง เช่นการทายา รับประทานยา หรือเลเซอร์
- เช็คร่างกาย และประวัติการแพ้ยา
- ระยะเวลาการรักษาสิว จะเริ่มดีขึ้นใน 1-3 เดือน แนะนำดูแลรักษาต่อเนื่อง อาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ
การรักษาสิวด้วยการกดสิว
- แนะนำทำทุกคนที่มีสิวอุดตัน เนื่องจากสิวอุดตันเป็นจุดเริ่มต้นของสิวอักเสบ และรอยสิวตามมา
- ระยะเวลา : 20-40 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณสิว
- การดูแลรักษา : หลังทำจะมีอาการแดงบริเวณที่กดสิว 2-3 วัน แนะนำทายาปกติ
- ราคา : เริ่มต้นครั้ละ 300 บาท
การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ C02
- เหมาะกับ : ผู้ที่มีสิวอุดตันเยอะๆ ลึกๆ ไรกราม หรืออักเสบเยอะๆ
- ระยะเวลา : ทายาชา 30-45 นาที ทำเลเซอร์และกดสิว 30-60 นาที
- การดุแลรักษา : งดโดนนํ้า 2-3 วัน จากนั้นล้างหน้า ทายาตามปกติ
- ราคา : เริ่มต้น ครั้งละ 3,000 บาท
การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ Dual yellow และ V beam
- เป็นการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 578 nm และ 511 nm โดยที่ความยาวคลื่นในช่วง 578 nm จะส่งผลต่อ
- เส้นเลือดฝอยขนาดเล็ก ช่วยลดการอักเสบของสิว และลดรอยแดงได้โดยไม่ทำลายผิวด้านบน
- เหมาะกับ : ผู้ที่มีสิวอักเสบ รอยแดงสิว ห น้าแดง แพ้ง่าย
- ระยะเวลา : ทำเลเซอร์ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณสิว
การดุแลรักษา : ล้างหน้า ทายาตามปกติ
- ราคา : ครั้งละ 6,000 บาท คอร์ส 5 ครั้ง 25,000 บาท
- ** ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรโมชั่น* *
การรักษาสิวด้วยกรดผลไม้ [AHA, BHA,Miami peel]
- เหมาะกับ : ผู้ที่มีสิวทุกชนิด รอยดำ รอยแดง หลังกดสิว
- ระยะเวลา : 10-15 นาที
- การดูแลรักษา : ล้างหน้า ทายาตามปกติ
- ราคา : ครั้งละ 500 บาท
การรักษาหลุมสิว ของยศการคลินิกมีหลายวิธี
1. เลเซอร์ Newborn skin laser เป็น Erbium glass เลเซอร์ ซึ่งจะใช้น้ำในการดูดแสง ตัวดูดแสงนี้ทำหน้าที่
รับพลังงานจากเลเซอร์ส่งผ่านไปยังคอลลาเจนที่อยู่โดยรอบ ทำให้เกิดการซ่อมแซมผิวหนังกระตุ้นการเกิดและเรียงตัวใหม่ของ คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ผลทำให้ผิวหนังอ่อนเยาว์แต่งตึงขึ้น และยังช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นอีกด้วย
- เหมาะกับ : หลุมสิวที่ไม่ลึกมาก ชนิด Rolling , boxcar scar
- ระยะเวลา : ทายาชา 30-45 นาที ทำเลเซอร์ 15-20 นาที
- การดุแลรักษา : ล้างหน้า ทายาตามปกติ
ราคา : ครั้งละ 15,000 บาท คอร์ส 3 ครั้ง 35,000 บาท ส่วนมากอาการดีขึ้นมากหลังทำครั้งแรก ** ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรโมชั่น **
2. Miracle Smooth เป็นการใช้ micro needle ช่วยให้เกิด micro trauma เกิดการกระตุ้นคอลลาเจน และ ซ่อมแซมผิวหนังด้านบน ผลทำให้ผิวหนังอ่อนเยาว์แต่งตึงขึ้น และยังช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นอีกด้วย
- เหมาะกับ : หลุมสิวที่ไม่ลึกมาก ชนิด Rolling , boxcar scar
- ระยะเวลา : ทายาชา 30-45 นาที ทำ Miracle smooth 15-20 นาที
การดุแลรักษา : ล้างหน้า ทายาตามปกติ
- ราคา : ครั้งละ 3,000 บาท คอร์ส 5 ครั้ง 9,990 บาท แถม มาร์คสิว 5 ครั ้ง
- ** ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรโมชั่น* *
3. Dermabrasion เป็นการกรอหน้า โดยผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าออกไป ช่วยลดรอยหลุมสิว กระชับรูขุมขน
- เหมาะกับ : หลุมสิวลึก รวมถึง ice pick ,rolling ,boxcar scar
- ระยะเวลา : ฉีดยาชา ใช้เวลาทำ 1-2 ชม
- การดุแลรักษา : ปิดแผล 7 วัน งดล้างหน้า 7 วัน
คำถามที่พบบ่อย
1. สิวอุดตันในวัยรุ่นเกิดจากอะไร
ตอบ เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน กรรมพันธุ์
2. วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตัน
ตอบ ในช่วงวัยรุ่นเนื่องจากมีการสร้างฮอร์โมน หนึ่งในนั้นคือฮอร์โมนแอนโดรเจนเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดสิวอุดตัน จึงแนะนำให้ทายาเพื่อละลายหัวสิวอุดตันเช่น Benzoyl peroxide, azelaic acid หรือการลอกหน้าอื่นๆ หลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของนํ้ามัน แป้งอัดแข็ง เหล่านี้กระตุ้นให้เกิดสิวได้
3. สิวหัวช้าง ปวดมาก รักษาอย่างไรดี
ตอบ อาการอักเสบของสิวเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ควรรักษาด้วยการทายาฆ่าเชื้อ ร่วมกับยาทาสิวอื่นๆ หากมีสิวอักเสบมาก แนะนำรับประทานยาฆ่าเชื้อ หรือยาบรรเทาอาหารปวดได้
4. ยาคุมมีผลต่อการเกิดสิวมั้ย
ตอบ จากการศึกษาพบว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณที่มากพอจะช่วยลดการเกิดสิวได้ จึงมีการใช้ยาคุมในการรักษาสิวในผู้หญิงที่รักษาด้วยวิธีปกติแล้วไม่ได้ผล
5. สาเหตุของการเกิดสิวแต่ละช่วงอายุ แตกต่างกันอย่างไร
ตอบ สิวในช่วงวัยรุ่นเกิดจากฮอร์โมนเป็นหลัก 80% เกิดจากพันธุกรรม และส่วนน้อยเกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือปัจจัยอื่นๆ ในช่วงอายุที่มากขึ้นก็ยังขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและฮอร์โมน และปัจจัยอื่นๆที่อาจเกี่ยวข้องอีก เช่น ประจำเดือน เครื่องสำอางค์แป้งอัดแข็ง รองพื้น อาหารมัน หวาน สูบบุหรี่ ความเครียด เป็นต้น
6. สิวสเตียรอยด์คืออะไร
ตอบ เกิดจากการที่ทาสเตียรอยด์บนผิวหนังนานๆ หรือรับประทานยาสเตียรอยด์ในปริมาณที่มาก ทำให้เกิดสิวได้ วิธีการรักษาคือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าเกิดจากสเตียรอยด์ และหยุดใช้สเตียรอยด์
วิธีการรักษามีกี่แบบ
ตอบ การรักษาหลุมสิวมีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ
- การรักษาด้วยการทายา เป็นการรักษาหลุมสิวระดับทั่วไป (Rolling scar) ที่มีรอยตื้น เพราะสามารถทำให้ผิวตื้นขึ้นได้ด้วยยาหลายชนิดด้วยกัน
- การรักษาด้วยการรับประทานยา โดยเป็นยาที่สกัดสกัดจากอนุพันธ์ของวิตามินเอ Retin A หรือ RETINOIDS
- การรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ เป็นการรักษาสำหรับหลุมสิวขนาดใหญ่แบบ Ice pick scar และ Box scar เพราะเป็นหลุมสิวลึก จะต้องรักษาและดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากคลินิกเสริมความงาม การรักษา ดังนี้
- ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เติมหลุมสิว เป็นวิธีที่เเหมาะกับการรักษาหสุมสิวแบบทั่วไป โดยสารเติมเต็มนี้จะเรียกว่า ไฮยาลูรอนิก เอซิด (Hyaluronic Acid) การฉีด 1 ครั้งจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี และจะเสื่อมสลายไปเอง
- เลเซอร์บำบัด และการฉีดเตียรอยด์ อาจใช้ร่วมกันในบางกรณี เลเซอร์ คือ รักษาหลุมสิว และ แผลเป็น เป็นการรักษาด้วยการทำ Newborn skin laser ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดปัญกาหลุมสิวและแผลเป็นต่างๆทำให้ หลุมสิวดูตื้นขึ้น ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และยังช่วยยกกระชับผิวหน้า รวมถึงกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย