ความสุขของสาวๆ ในทุกครั้งที่ส่องกระจกก็คือ ได้มองใบหน้าเรียวๆ สวยๆ ของตนเองผ่านหน้ากระจก ถ้าสาวคนไหนมีใบหน้าเรียวสวยคงรู้ดีว่ามันน่าภูมิใจแค่ไหน ซึ่งอันที่จริงแล้วการจะปรับใบหน้าให้เรียวสวย กรอบหน้าคมชัดด้วยการลดน้ำหนักหรือออกกำลังกายอาจไม่สามารถทำได้อย่างที่ต้องการ เพราะสาวเอเชียส่วนใหญ่มักมีใบหน้ากลมหรือหน้าเหลี่ยมตามกรรมพันธุ์ จึงทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสั้นๆ
ที่ YOSKARN CLINIC (ยศการ คลินิก) เรามีความมุ่งมั่นอยากให้สาวๆ ส่องกระจกด้วยรอยยิ้ม เพราะใบหน้าเรียวสวยกับหลากหลายเทคนิคทำหน้าเรียว คุณสามารถเข้ามาขอคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ YOSKARN CLINIC (ยศการ คลินิก) แพทย์จะประเมินการรักษา วิธีการทำหน้าเรียวที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย
ลักษณะใบหน้าแบบไหนควรทำหน้าเรียวที่ YOSKARN CLINIC (ยศการ คลินิก)
- คนที่มีใบหน้ากลมเนื่องจากกล้ามเนื้อเยอะ หรือมีไขมันที่แก้มจนทำให้แก้มยุ้ย แก้มป่อง
- คนที่มีใบหน้าเหลี่ยมโหนกแก้มสูงบาน หรือกรามใหญ่
- คนที่มีลักษณะคางสั้น คางยื่นเหมือนแม่มด รูปคางยุบเข้าหรือคางถอย
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
วิธีทำหน้าเรียวที่ YOSKARN CLINIC (ยศการ คลินิก)
คนไข้ควรเข้ามาขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ที่ยศการ คลินิก เพื่อบอกถึงความต้องการทำรูปหน้าให้เรียว โดยแพทย์จะตรวจลักษณะโครงสร้างของใบหน้า เพื่อหาสาเหตุก่อนประเมินวิธี การทำหน้าเรียว การรักษาที่เหมาะสม โดยมีหลากหลายวิธีทำหน้าเรียว ดังนี้
1. ศัลยกรรมตัดกราม
การทำหน้าเรียวโดยการตัดกรามในกรณีคนไข้หน้ากางจากปัญหากระดูกมุมกรามใหญ่ แพทย์จะใช้วิธีผ่าตัดเปิดแผลจากในปาก เพื่อศัลยกรรมลดขนาดกระดูกมุกกราม โดยแพทย์จะใช้เลื่อยเล็กๆ ตัดกระดูกมุมกรามออกตามแนวที่ต้องการ จากนั้นก็ตัดแต่งกรามกระดูกมุมกรามให้เรียบร้อย การผ่าตัดวิธีนี้จะเป็นที่นิยมกันมากกว่าเพราะไม่เห็นแผลเป็น หรือในกรณีคนไข้มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ร่วมด้วย แพทย์จะผ่าตัดลดกระดูกกรามและลดกล้ามเนื้อพร้อมกัน
หลังผ่าตัดในช่วง 2-3 วันแรกให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม และรักษาความสะอาดของช่องปากด้วยการแปรงฟันเบาๆ เพื่อขจัดเศษอาการตกค้างซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบได้
2. ศัลยกรรมลดโหนกแก้ม
ซึ่งวิธีการศัลยกรรมลดโหนกแก้มมีดังนี้
- การตัดกระดูกและบีบเข้าแกนกลางใบหน้า ด้วยวิธีผ่าตัดภายในช่องปาก โดยส่วนใหญ่ใบหน้าของคนอเชียจะกางออกตั้งแต่จากบริเวณกระดูกข้อต่อขากรรไกรยาวมาถึงบริเวณโหนกแก้ม แพทย์จะตัดกระดูกบริเวณโหนกแก้มโดยใช้เครื่องมือแพทย์ที่เป็นเลื่อยเล็กๆ ตัดตามตำแหน่งที่ต้องการ แล้วใช้เครื่องมือบีบกระดูกเข้าหาแกนกลางของใบหน้าเพื่อลดขนาดให้ใบหน้าเล็กลง
- กรอกระดูกโหนกแก้ม หรือเหลาโหนกแก้ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มนูนขึ้นมาด้านหน้าไม่สูงมากนัก แพทย์จะใช้วิธีกรอกระดูกให้เตี้ยลง โดยซ่อนแผลผ่าตัดไว้บริเวณจอนหน้าหู
แต่หากคนไข้มีปัญหากระดูกโหนกแก้มมีความหนา แพทย์จะพิจารณารักษาร่วมกันทั้ง 2 วิธี คือ กรอกระดูกและตัดกระดูกบีบเข้า เพื่อความสวยงาม
ดึงหน้า
ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า
- แพทย์จะเริ่มจากการเปิดแผลบริเวณเหนือหูขึ้นไปถึงบริเวณขมับ โดยผ่านผิวหนังหลังแนวผมเข้าไปตามขอบใบหูด้านหน้า และอาจเว้าขึ้นไปที่ติ่งหูหน้ารูหูเล็กน้อย แล้วต่อลงมาที่ติ่งหูด้านล่าง โค้งอ้อมติ่งหูไปทางด้านหลังหูตรงบริเวณซอกหลังใบหูขึ้นไป จากนั้น จึงลากผ่านเข้าไปในผมอีกทีเพื่อซ่อนแผลไว้ในแนวเส้นผม จะเห็นได้ว่าแผลที่โผล่มาให้เห็นนั้นจะอยู่ตรงบริเวณขอบหูด้านหน้าเท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อแผลหายสนิทแล้วก็มักจะมองไม่ค่อยเห็นชัด ส่วนบริเวณอื่นๆ แพทย์จะซ่อนเอาไว้อย่างดีตามแนวเส้นผม โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาเห็น
- หลังจากนั้น แพทย์ก็จะเปิดผิวหนังส่วนบนของใบหน้าหรือส่วนที่หย่อนยานขึ้น
- เมื่อเปิดได้กว้างเพียงพอแล้วแพทย์ก็จะเปิดยกผืนพังผืดและกล้ามเนื้อขึ้นอีกชั้นหนึ่งเพื่อจะได้ดึงให้ตึงเป็น 2 ชั้น (คือชั้นตื้นและชั้นลึก) คราวนี้แพทย์ก็จะเริ่มจัดการกับกล้ามเนื้อต่างๆ ที่มีผลต่อริ้วรอยของใบหน้า เช่น กล้ามเนื้อหางตา (หรือที่เคยรู้กันมาว่า ตัดตีนกา นั่นเอง) กล้ามเนื้อหน้าผาก หว่างคิ้ว กล้ามเนื้อที่คอด้านข้าง แพทย์ก็จะจัดการเย็บขึงให้ตึงขึ้น แล้วเย็บติดกับส่วนที่แข็งแรงเพื่อตรึงเอาไว้เป็นแห่งๆ
- เมื่อเรียบร้อยแล้ว แพทย์จึงจะดึงหนังส่วนบนให้ตึง และตัดหนังส่วนเกินที่หย่อนออกไป แล้วเย็บปิดผิวหนังเข้ากับที่ใหม่ด้วยไหมเล็กๆ ให้แข็งแรงเป็นชั้นๆ อีกที เป็นอันเสร็จเรียบร้อยใน ปัจจุบันนี้มีการเย็บรอยแผลให้ปิดด้วยไหมเหล็กเหมือนลวดเย็บกระดาษก็จะช่วยทุ่นเวลาการผ่าตัดของคนไข้ได้มากทีเดียว จะมีแพทย์หลายท่านที่ใช้วิธีนี้ช่วยในบางส่วนของการเย็บแผล เช่น แผลที่ซ่อนอยู่ในผม ดังนั้น คุณไม่ต้องตกใจหากตื่นขึ้นมาแล้วเกิดไปเจอลวดเย็บแผลชนิดนี้เข้า เพราะเป็นอุปกรณ์เย็บแผลชนิดหนึ่งเท่านั้น เวลาใช้ก็รวดเร็ว เวลาถอดออกก็ไม่เจ็บเลย แถมสะดวกดีด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีไหมค้างหรือกลัวว่าแพทย์จะตัดไหมไม่หมดด้วย เพราะลวดเย็บคลำเจอง่ายกว่าไหมเย็บ
- หลังผ่าตัดแพทย์อาจจะใส่ท่อเล็กๆ สำหรับระบายเลือดและน้ำเหลืองที่ซึมเล็กซึมน้อยจากการผ่าตัดออก เพื่อช่วยป้องกันเลือดที่จะค้างคาหลังจากเย็บแผลเรียบร้อยแล้ว ท่อนี้แพทย์จะเอาออกให้ในเวลาไม่นานนักอาจจะเป็น 1-2 วันเท่านั้น
4. ฉีดสลายไขมัน (เมโสแฟต)
การทำหน้าเรียวโดยฉีดยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันบริเวณแก้ม โดยแพย์จะฉีดเข้าสู่ผิวหนังลึกเข้าไปในชั้นไขมัน และสามารถสลายออกจากร่างกายได้เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ หลังจากฉีดสลายไขมันเข้าที่บริเวณผิวหนังแล้ว โดยธรรมชาติไขมันจะเริ่มหดตัวหรือเริ่มลดจำนวนเซลล์ไขมันลง ในบางรายอาจทำให้ขนาดแก้มในช่วง 1-2สัปดาห์แรกจะดูใหญ่กว่าที่ต้องการได้ เนื่องจากคนไข้บางรายมีการแตกตัวของไขมันได้ช้า แต่หลังจากนั้นเมื่อน้ำยาทำการสลายไขมันให้เริ่มแตกตัวได้ แก้มจะค่อย ๆ ยุบตัวเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้แก้มที่พอดีตาม
5. ดูดไขมัน Micro Liposuction
ดูดไขมันโดยใช้หลอดดูดขนาดเล็ก Micro Liposuction หรือใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Thermi Tight)เข้าไปทำให้เกิดการแตกตัวของเซลล์ไขมันแล้วค่อยดูดออก โดยที่เนื้อเยื่อโดยรอบไม่ถูกทำลายให้เสียหายไปด้วย บริเวณใบหน้าที่สามารถทำได้ เช่น เหนียง คอ แก้มด้านล่าง ขอบกราม ใต้คาง และบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่จำนวนมาก
หลังจากที่ทำการดูดไขมันบริเวณใบหน้าแล้ว ผิวหนังบริเวณนั้นจะยังคงมีความเรียบกระชับอยู่ และเกิดความบวมช้ำน้อย เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น กรอบหน้าดูคมชัดมากขึ้นทำให้ดูหน้าเล็กลง สามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าภายใน 1 เดือน และเห็นผลชัดเจนที่สุดในเดือนที่ 6
6. ร้อยไหมหน้าเรียว
การร้อยไหมหน้าเรียว ช่วยในเรื่องการยกกระชับ การปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียว และฟื้นฟูสภาพผิวบริเวณที่ทำ ซึ่งถือเป็นทางเลือกของผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด
YOSKARN CLINIC (ยศการ คลินิก) ใช้ไหมละลาย PDO ทำจากโพลีไดออกซาโนน (Polydioxanone) ซึ่งใช้ในการเย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ มักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และไม่ต้องเป็นกังวลว่าเส้นไหมเหล่านี้จะติดอยู่ใต้ผิวหนัง เพราะไหมจะค่อยๆ สลายตัวไปเองภายใน 8 เดือน
ร้อยไหมหน้าเรียว โดยใช้ไหมละลายจำนวนหลายเส้นร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง การทำเช่นนี้ส่งผลให้เกิดปฏิกิรยาตอบสนองของเนื้อเยื่อใต้ผิวและมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม ทำให้ผิวหนังถูกดึงรั้งจนเต่งตึง ทั้งยังช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณดังกล่าวมากขึ้น เหมือนกับร่างแหที่ทำให้เกิดแรงตึงผิว จึงช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ดูจางลง ทำหน้าเรียว อย่างเห็นได้ชัด ดูอ่อนกว่าอายุจริง
ร้อยไหมหน้าเรียว อยู่ได้นานแค่ไหน
การร้อยไหมหน้าเรียว จะเห็นผลได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เพราะจะรู้สึกได้เลยว่าผิวบริเวณใบหน้าของเราตึงกระชับขึ้น และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นใน 1-2 เดือน ซึ่งหลังจากที่ทำการร้อยไหมแล้วนั้นเราสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ทั้งล้างหน้า ทาครีมบำรุง หรือเล่นกีฬา
หลังการร้อยไหมหน้าเรียว จะเห็นผลการทำหน้าเรียว ชัดเจนที่สุดเมื่อถึง 6 เดือนและอาจอยู่ได้นาน 1-3 ปี ขึ้นกับการดูแลรักษาของคนไข้ผู้ได้รับการร้อยไหม เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลเอาใจใส่เรื่องการทานอาหาร ดื่มน้ำให้เพียงพอ การงดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญที่สุดคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
7. Ulthera
เป็นเทคโนโลยีที่คลื่นเสียงความถี่สูง ที่มีความเฉพาะเจาะจง มาใช้ในการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ทำหน้าเรียว โดยการส่งผ่านพลังงานถึง 3 ระดับ ไปยังผิวหนังชั้นแท้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดตัวและสร้างคอลลาเจน และส่งพลังงานไปยังเนื้อเยื่อชั้นกล้ามเนื้อชั้น SMAS กระตุ้นให้มีการหดตัวคล้ายกับการเย็บเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการผ่าตัดดึงใบหน้าโดยศัลยแพทย์ และเกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ในระดับ SMAS ร่วมกับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
เมื่อพลังงานส่งผ่านยกกระชับทั้ง 3 ชั้น ก็จะรั้งใยคอลลาเจนในแนวตั้งและแนวนอนที่ยึดกับผิวชั้นบนให้ดีขึ้น และผิวจึงค่อยๆ ถูกรั้งให้ตึง ยกกระชับ ทำหน้าเรียว และเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติจากภายใน
โดยระหว่างที่ส่งคลื่นเสียงที่มีพลังงานความร้อนและความแม่นยำสูงลงสู่ผิวหนังชั้นลึก แพทย์สามารถมองเห็นภาพผิวหนังทุกชั้นของผู้เข้ารับการรักษาผ่านหน้าจอของเครื่อง ทำให้แพทย์สามารถทำการรักษาไปพร้อมกับการปรับคลื่นเสียงที่พอเหมาะกับสภาพผิวหนังของผู้มารับการรักษาแต่ละรายได้ ทำให้เกิดความแม่นยำ ไม่ก่อผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียง วิธีการทำหน้าเรียว จึงมีความปลอดภัยสูง และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
Ulthera เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่ตึงกระชับ
- ผู้ที่ต้องการทำหน้าเรียว ปรับกรอบหน้าให้มีความเรียวและชัดเจน
- ผู้ที่มีแนวคิ้วและหางตาตก ดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิว ปรับผิวให้ดูอ่อนเยาว์ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการให้ผิว เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ และผิวสัมผัสดีขึ้น
- ผู้ที่ต้องการลดเหนียง คางสองชั้น หรือแก้ปัญหาคอที่เหี่ยวย่น
เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในทันทีหลังการทำหน้าเรียว แนวคิ้วและหางตายกขึ้น กรอบหน้าชัดเจนขึ้น ผลลัพธ์ที่ดีจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคอลลาเจนใหม่จะมีการสร้างออกมาอย่างต่อเนื่องภายใน 3 เดือน โครงสร้างผิวจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ (Collagen Remodeling) และอยู่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 1-2 ปี
8. HIFU
HIFU คือ การนำเทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง มาใช้ในการยกกระชับใบหน้า ทำหน้าเรียว โดยเครื่องจะปล่อยพลังงานลงไปในชั้นกล้ามเนื้อชั้นลึก ที่เรียกว่า ชั้น SMAS เป็นกล้ามเนื้อชั้นเดียวกับที่แพทย์ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า พลังงานจะลงไปทำให้เส้นใยพังผืดหดกลับกระชับตึงขึ้น ทำหน้าเรียว กระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์เซลล์ ให้ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวมีการจัดเรียงตัวใหม่ทำให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น
HIFU นวัตกรรมยกกระชับใบหน้า ทำหน้าเรียว 4D ได้รับความนิยมจากคนทั่วไปสูง เนื่องจากมีความปลอดภัยและเห็นผลโดยไม่ส่งผลใดๆ ต่อผิวชั้นบน ขณะทำจะรู้สึกเพียงอุ่นๆ ใต้ชั้นผิว มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยของใบหน้าให้ตึงขึ้นได้ โดยไม่ต้องเจ็บตัว สามารถยกกระชับ ทำหน้าเรียว ปรับรูปทรงได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ เรียบเนียน รูขุมขนเล็ก หน้าเนียนใสขึ้น
นอกจากนั้น ยังช่วยการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก เพิ่มการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง คลายการยึดเกาะตัว และลดการสะสมของเซลล์ไขมัน ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดผิวเปลือกส้ม และหลังการรักษาคุณสามารถแต่งหน้า หรือทำกิจกรรมได้ตามปกติทันที โดยไม่มีรอยแดงหรือไหม้ ดังนั้น HIFU จึงเป็นนวัตกรรมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของใบหน้า อยากทำหน้าเรียว โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัดหรือใช้เข็ม
ผลลัพธ์หลังทำ HIFU
HIFU ใช้เวลาการทำประมาณ 30 – 50 นาที หลังจากทำสามารถเห็นผลได้ทันที 20-30% ทั้งนี้ จำนวนครั้งของการทำ HIFU ในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน โดยมากเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของรูปหน้าแต่ละคน ซึ่งควรจะต้องทำหน้าเรียว อย่างต่อเนื่องจึงจะแก้ปัญหาได้ และจะเห็นผลการทำหน้าเรียวได้ชัดเจนประมาณ 1-3 เดือนขึ้นไป แนะนำควรทำอย่างน้อย 2 เดือนต่อครั้ง
Thermage
Thermage คือ เทคโนโลยีการยกกระชับผิว ทำหน้าเรียว โดยใช้หลักการส่งพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) เข้าไปทำงานยังชั้นผิวหนัง ใช้กระตุ้นได้ลึกลงตั้งแต่ชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยก่อให้เกิดมวลความร้อนในชั้นผิวหนังในระดับที่ลึกที่มีคอลลาเจนอยู่ จะเป็นการลงไปแก้ปัญหาที่เส้นใยคอลลาเจนที่มีความหย่อนคล้อย ขาดการยืดหยุ่น และการสปริงตัว ซึ่งจะส่งผลให้คอลลาเจนและอิลาสตินเกิดการหดตัวกลับมาและมีเกลียวที่ขึงตึงขึ้นยึดเนื้อเยื่อของผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น
พร้อมกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ และยังส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สปริงมากขึ้น ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรงแต่นุ่มนวล ลดร่องรอยต่างๆ ทำให้รูขุมขนเล็กลง ช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดริ้วรอย และทำหน้าเรียวคมชัดโดยไม่ต้องผ่าตัด ผิวแลดูอ่อนเยาว์จากภายในสู่ภายนอก